วันศุกร์, มกราคม 04, 2551

ณ บัดนี้ สัญญาณ ได้เริ่มแล้ว ??


ณ บัดนี้ สัญญาณ ได้เริ่มแล้ว ??

     สัญญาณ ของสิ่งที่หลายคน เคยกลัวว่ามันจะเกิด สิ่งที่หลายคนไม่อยากให้มันเกิด ที่เคยกล่าวขานถึง ว่ามันจะต้องเกิด กับ ชาติ บ้านเมือง กับประชาชน ตาดำๆ กำลังจะเริ่ม แล้ว เพราะอะไร หรือ?
ภายใต้ กาลเวลา ที่ผ่าน มันถูกสั่งสม ด้วยความ หยิ่ง ทนง ก้าวร้าว ดุดัน มันถูกสั่งสม จากความ ก้าวร้าว อหังการ์ ใน อัตตา
มันเป็นเหตุปัจจัยความประจวบเหมาะ ที่ส่งผลมาพอดีกัน ขวาหนึ่งสะดุดตกขอบ ขวาสองสะดุดตกเวทีหัวทิ่มหัวตำ เคล็ดขัดยอกเพราะสะดุดขาลูกตัวเอง ต้องพักฟื้น อีกกลุ่มซ้าย เมามันเพราะ ถูกบล๊อคเข้ามุมอับ ฝนตกพายุพัด เปียกปอนวิ่งฝ่าฝนโหมกระหนำ ซัดเข้าดวงตาจนพร่ามัว ซึ่งจ่าฝูงต้องระเห็ดซัดเซซัง หลบหลีกพายุบนเทือกเขาโงลังกั๋ง

แต่ด้วยปัญญาอันล้ำเลิศ ในการอ่านและวางหมากเบื้องหน้า หากยามที่พายุอ่อนและต้องจางหาย ในยามนี้ จะยังไม่อาจสำแดงตนได้อย่างเปิดเผยดังก่อนได้อย่างเดิม ในบรรดาฝูงแกะบางส่วนก็เอาใจห่างไปเข้าศัตรู พันธมิตรรักก็ห่างหายทั้งสิ้น ย่อมไม่มีผู้ใด จะมีเรี่ยวแรง ไม่มีเสบียงคลัง จึงไม่อาจหาญที่จะกล้าต่อกร กับพายุร้ายที่ยังแฝงฝัง กระจัดกระจายตามที่ต่างๆอย่างเงียบๆได้แน่นอน
อย่ากระนั้นเลย มันจะต้อง อัญเชิญพญาราชสีห์ขาแพลง พญางูหลังเดาะ ซ้ายสวิงขวา ขวาสวิงขวา พระยาราชสีห์ขาแพลงพึ่ง และพญางูหลังเดาะ ให้เข้ามาเป็นจ่าฝูงคุมฝูงแกะ ที่ไร้จ่าฝูง และตนก็เพียงวางแผนกลยุทธอยู่บนเทือกเขาโงลังกั๋ง ส่วนแกะที่แตกฝูง และ พันธมิตรที่เอาใจออกห่าง พวกนี้ เล่นไม่ยาก ยามใดใครชำนะ ยามนั้นมันก็มาสวามิภักดิ์ ยามใดใครพ่ายแพ้ มันก็หนีจาก มันเป็นเช่นนี้เอง เราก็จะสามารถต่อกร เอาชัยชำนะคืนได้และต้านพายุร้ายได้อย่างแน่นอน ดั่งน้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่า เสบียงคลังดั่งเดิมก็ยังคงพอมีอยู่ ยามเฮือกสุดท้าย แรงฮึด ของพญาราชสีห์ขาแพลง พญางูหลังเดาะ กับฝูงแกะพลัดจ่าฝูงเข้ามุมอับเมื่อรวมกันได้เมื่อใด เรี่ยวแรงจะดั่ง งูร้ายฟาดหางเฮือกสุดท้าย ย่อมมีพิษสงร้ายกาจนัก ยิ่งเพิ่มพลังที่อาจหาญเข้าต่อกับ พายุร้ายได้เป็นแน่
ปวงประชาและเหล่าสีที่ต่างขั้วคือกลุ่มพลังแฝงทั้งเบื้องบน และล่าง ที่ยังคาใจอยู่ คงยังต้องนิ่งปล่อยวางเฝ้าดู ด้วยกฏกติกา ประชาธิปไตย กฏกติกาสังคม ที่ยอมได้ แต่หยามไม่ได้ มิได้ลดละอยู่ ดั่งพญามังกรร้ายที่ถูกภูเขาน้ำแข็งปกคลุม ไร้พิษสง รอเวลาความเร่าร้อนลุแก่อำนาจที่จะมาทำละลายน้ำแข็ง เท่านั้น
ด้วยการขอร้อง ตักเตือน และสถานการณ์บีบบังคับ จำต้องใช้ความระมัดระวัง แต่มันก็เป็นเพียง เหตุผลความจำเป็นต่อสถานการณ์เฉพาะหน้า มันจะระงับได้เพียงชั่วครู่ชั่วยาม หรือ มันอาจจะเป็นความพยายาม อย่างยิ่งยวด ก็ตาม เราขอภาวนาอย่าให้มันเป็นอย่างที่มันเคยเป็น อย่าให้เขาเป็นอย่างที่เขาเป็นเลย

และหากสิ่งสั่งสมปะทุ ขึ้นเมื่อไร?มันจะเริ่มจากใคร? เริ่มที่ไหน? เริ่มอย่างไร? จาก ความมุทะลุ ดุดัน กร้าว แข็ง ไม่ยอมหักไม่ยอมงอ หากปล่อยให้เป็นดั่งน้ำเดือด ดั่งเคย หากปล่อยให้ หลง เหลิง ในอำนาจวาสนา บารมี อันห้อมล้อมด้วยลูกขุนพลอยพยัก คอยดัน คอยไส ด้วย มิจฉาฯ แล้ว ชาติบ้านเมือง ดังอยู่ในกำมือมัจจุราช

นี่ไม่ใช่คำสาปแช่ง ไม่ใช่คำภาวนา ไม่ใช่ สิ่งที่เรา ท่านต้องการ แต่ทุกอย่างมันเป็นเหตุ มันเป็นปัจจัย ซึ่งกันและกัน มันเป็นสูตรคณิตศาสตร์ทางพฤติกรรมของมนุษย์? มันเป็นแรงขับจากกระแส แห่ง "อวิชา ตัณหา อุปทาน" ที่สั่งสมกันมานาน จากตัวละครที่แต่ละตัวได้ถูก เรา “เลือกกันเข้ามา” ใครเลือกใคร เพราะอะไร ด้วยแรงจูงใจอย่างไร ด้วยเหตุผล จุดประสงค์ใด และหากเขาจะทำอะไร ทำอย่างไร แค่ไหน เพียงใด จงยอมรับเถิด ว่าในสิ่งที่มันกำลังจะเกิดขึ้น ต่อไปนี้ เราไม่สามารถควบคุมมันได้ต่อไปแล้ว
อย่าหลงเพียงลมปากที่ทำให้ลิงหลับ เราจะเป็นอย่างลิง หรือเราจะเป็นอย่างมนุษย์ผู้มีปัญญา มีวิจารณญาณ ก็เลือกเอา
แค่เริ่มต้นยก ผมก็ ปลงเสียแล้วซี..ท่านที่เคารพ ถามว่า ใครบ้าง ที่ จะยอมรับว่าตนเป็น เหตุปัจจัยหนึ่งของความที่มันจะเป็นไป ในบ้านเมือง

ตอนนี้ คงพูดอะไรมากไม่ได้ นอกจากนั่งเฝ้าดู ด้วยใจระทึก ได้แต่ภาวนาอย่างเดียวว่า
จะทำอะไร
จะพูดอะไร
จะทำอย่างไร ขอลด ละ ความอหังการ์ ความถือดี ยึดมั่นถือมั่นในตัวกู ของกู ให้นึกถึง ชาติ บ้านเมือง มากกว่า ตัวเอง มากกว่า ผลประโยชน์ และ อำนาจ พรรค พวกของตัวเอง และให้นึกเสมอว่า ทุกสรรพสิ่งในโลก ล้วนอยู่ภายใต้ กฏ แห่ง อนิจจัง แห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ว่า " มีเกิด มีการตั้งอยู่ และ ย่อมมีการดับไป" เป็นธรรมดาของสรรพสิ่ง ไม่เว้น แม้ กระทั่ง"อำนาจ" ให้ นึกถึง รัฐบาล สิ่งที่ผ่านมา เป็นอุทธาหรณ์
หากเรา ติดตาม ศึกษา สถานการณ์ทางการเมือง พฤติกรรมบุคคล แล้วจะได้รับรู้ถึงสัญญาณที่เริ่มเกิดขึ้น...

เฮ ไหนเฮ ตาม โถ สื่อ ฯ นะ สื่อ(บางคน)




เฮ ไหนเฮ ตาม โถ สื่อ ฯ นะ สื่อ(บางคน)

..... สื่อมวลชน บางคน ชอบทำตัว
เสมือน เรือ เอียง ก็จะเฮ ไปฝั่งตรงข้าม
แต่พอเรือเอียงมาอีก ก็เฮ หนีอีก ไปอีกฝั่ง เรือก็ เอียงตาม
เฮกันไป เฮมา เรือก็เลย ล่ม จนจมน้ำตายกันหมด ทั้งลำ นั่นแหละ

ไม่ชอบเลย เรื่อง เฮไหน เฮตามกัน
พวกเราคงได้เห็นกันมาบ้าง และก็ เริ่มได้เห็นกันอีกในงวดนี้
ยามที่ กระแส ต่อต้าน ทักษิณฯ มาแรง ก็ เชลียร์ คมช.
แต่พอกระแส ทักษิณฯ กลับมาแรง ก็เริ่ม ที่ จะ ทำตัว ต่อต้าน คมช..

ผมหละ งง บ้านนี้ เมืองนี้
หาจุดยืน จุดพิง อะไร ที่เป็น แก่นสาร ความถูก ความผิด อะไรกันไม่ได้ เลย หรือ
ผมไม่ต้องการ ให้ เฮ ข้างไหน หรอก
ที่เขาทำดี อยู่ ก็ต้องชม ว่าเขา ดี ไม่ใช่ ด่า ตี เอาอย่างเดียว
อ้ายที่เขาทำอะไร ไว้ ที่ไม่ดี เราก็ต้องติ ไม่ใช่ ด่า
ถึงเขาจะ ล้ม เราก็ต้องไม่ข้าม
แหละหาก เขา ลุกขึ้นยืน เราก็ ไม่ต้อง ไป เชียร์ เขา จนออกนอกหน้า
ประเทศเรา มันจะล่มจม ก็เพราะ กระแสแบบนี้
มันทำให้ คนล้ม ถูกเหยียบซ้ำ
และ มันทำให้ คน มีอำนาจวาสนา มัน ผงาด จนเหลิง หลง มัวเมา อยู่ในอำนาจ
และ เขาก็เดินผิดทาง จนก้าวพลาด และ เราก็ไปเหยียบซ้ำอีกกระนั้น หรือ ?
เพื่อ ชาติบ้านเมือง เพื่อ ปวงประชาชา เพื่อ ความสงบ ร่มเย็น อย่างยั่งยืน
ขอ สหายจง ตรอง เอาเถิด