วันศุกร์, พฤษภาคม 02, 2551

บริบ่นรำพรรณ ๙

ไม่อยากให้เลือดไทยต้องนองแผ่นดิน

*ต้องยอมรับ ว่า อดีตนายกทักษิณฯ ท่านเป็นคน เก่ง ฉลาด หลักแหลม และ ว่องไวในการคิดและตัดสินใจในเรื่องการคิดใหม่ ทำใหม่ ที่สร้างสรรค์
ต้องยอมรับ ว่า ท่านได้สร้างนวัตกรรม ทางการบริหารบ้านเมืองได้อย่างโดดเด่น

เสียดายที่ อดีตนายกทักษิณฯ ใช้คำพูดดูแคลนขบวนการก่อการร้ายสามจังหวัดภาคใต้ ว่าเป็นแค่โจรกระจอกโจรห้าร้อย พวกติดยาเสพติดไม่น่ากลัวเกรง จนสถานการณ์รุนแรง มากขึ้นแทนที่จะลดลง

เสียดายที่ อดีตนายกทักษิณฯ ปฏิเสธแบบไม่มีเยื่อใยการเสนอตัวเจรจาของตัวแทนขบวนการแบ่งแยกดินแดน ที่เสนอตัวเข้ามาช่วยเจรจา ในช่วงที่ไฟใต้เริ่มคุโชนใหม่ๆ

เสียดายที่อดีตนายกทักษิณฯใช้อำนาจแทรกแซงองค์กรเอกชนตามรัฐธรรมนูญสถาบันยุติธรรม และดื้อรั้นที่ไม่ฟังเสียงคัดค้าน จนกลายเป็นการใช้อำนาจเผด็จการในการบริหารและในสภาฯ

ถ้าเป็นไปได้ ก็ไม่อยากให้ อดีตนายกทักษิณฯ ใช้ ท่วงที วาจาที่รุนแรง สร้างศัตรูกับกลุ่มที่ไม่เห็นด้วย


เสียดายที่ อดีตนายกทักษิณฯเชื่อ และหลงใหลไปกับ การประจบ สอพลอจากบริวารรอบตัว จนขาดการระมัดระวังในเรื่องการพูดและการใช้อำนาจ

เสียดายที่ อดีตนายกทักษิณฯ ใช้ท่าทีแข็งกร้าวไร้เยื่อไย ต่อการคัดค้านและไม่เห็นด้วยของกลุ่มฝ่ายค้านและพลังต่างๆ ซึ่งมีต่อพฤติกรรม บทบาท และการกระทำบางอย่างของท่าน จนกลายเป็นการสร้าง แรงกดดัน สร้างศัตรู กับนักวิชาการ ฝ่ายค้าน และใครต่อใครมากมาย จึงกลายเป็นเงื่อนไขให้ทหารสามารถเข้ามายึดอำนาจ ฉีกรัฐธรรมนูญ ท่ามกลางฝ่ายที่เห็นด้วยกับการล้มกระดานมากกว่าคนที่ไม่เห็นด้วย

และก็ไม่อยาก ให้ ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยในรัฐบาลชุดนี้

และก็ไม่อยาก ให้ รัฐบาลชุดนี้ ใช้อำนาจและโอกาส แก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อ พรรค และพวก ตัวเอง เพื่อหลีกเลี่ยง ความผิดบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญ ที่ได้ผ่านขบวนการจัดทำร่างของคณะกรรมการ ที่สรรหามาจาก ตัวแทนวงการต่างๆ และได้ผ่านขบวนการลงประชามติจากประชาชนทั่วประเทศ และผ่านการทรงลงประปรมาภิไธ จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แล้ว

และก็ไม่อยาก ให้ รัฐบาลชุดนี้ ดึง ดัน ฉุด ลูก เมีย วงศาคณาญาติ พวก ตน เสวยตำแหน่ง หน้าที่ ด้วยใช้อำนาจ โอกาส กับการใช้วาจา สำนวนโวหาร อ้างเหตุผล สำนวนอันคมคาย หลักแหลม ด้วยการเอาสี่ข้างเข้าถู อย่างย่ามใจ

และ ก็ไม่อยากให้ ความไม่ชอบมาพากล อย่างไร้ความละอาย จนย่ามใจ จนสิ่งเหล่า นี้ ไปสร้างความ กด และ ดัน บีบคั้น ทำลาย ความอดทนจิต ของปวงประชา เกินระดับแห่งความความชอบธรรม และความพอดี แห่งปวงประชา ที่จะอดกลั่น ในกรอบแห่งความพอเพียง ความละอาย และความเกรงใจ

และก็ไม่อยากให้ เกิดความขัดแย้ง ความไม่พอใจ จนบ้านเมือง ของเรา ต้อง นองไปด้วยเลือดของคนไทยด้วยกันเอง

บริบ่นรำพรรณ ๘

แก้รัฐธรรมนูญให้รัฐบาลเข้มแข็งถามว่า.... เข้มแข็งเพื่อใคร?

*เมื่อพรรครัฐบาลทำผิดกฎหมายเลือกตั้งแล้วต้องยุบพรรค เราควรแก้รัฐธรรมนูญเพื่อให้รัฐบาลเข้มแข็งนั้น ต้องถามว่า เข้มแข็งเพื่อใคร? เพื่อพรรคที่เป็นรัฐบาล หรือเพื่อชาติบ้านเมืองเข้มแข็งมั่นคง

ประเด็นที่ควรพิจารณากันก็คือ การเสนอขอแก้รัฐธรรมนูญ ม. 237 เพื่ออะไร?
แก้รัฐธรรมนูญเพื่อใคร?
หาก พรรคพลังประชาชน เป็นพรรคฝ่ายค้าน จะแก้รัฐธรรมนูญ ม. 237 หรือไม่

ที่ถูกแล้ว การที่จะขอแก้ไข รัฐธรรมนูญ ดังกล่าว ควรต้องวางเป้าหมายโดยอาศัยสถานการณ์ของชาติ บ้านเมือง ว่าเราต้องการอะไร ต้องการให้รัฐเป็นอย่างไร

ซึ่งเราจะต้องเอาบทเรียนการเมือง การปกครอง ความเป็นความตาย ของชาติบ้านเมืองในอดีตที่เกิดขึ้น เป็นครู ว่ามันได้เคยเกิดอะไรขึ้น เพราะอะไร เราจำเป็นต้องบัญญัติสิ่งเหล่านั้น ไว้ในรัฐธรรมนูญ เพื่อป้องกันและแก้ไข มิให้เกิดเหตุการณ์อะไรดังกล่าวขึ้นอีก อันจะทำให้ ชาติบ้านเมืองของเราเกิดความวุ่นวายอย่างไม่จบสิ้น เหมือนประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้น อีกและเกิดขึ้นอีกซ้ำซากอย่างไม่สิ้นสุด

การแก้ไขปัญหาโดยใช้กฎหมาย รัฐธรรมนูญ เพื่อป้องกันและแก้ไข ปัญหาที่เคยเกิดขึ้น ถือว่าเป็นการสมควรแล้ว เพื่อมิให้ประวัติศาสตร์ เกิดซ้ำรอยขึ้นมาอีก เพื่อให้ชาติบ้านเมืองของเรามีเสถียรภาพ มีความมั่นคงแข็งแรง

แต่การแก้ไขรัฐธรรมนูญ คงมิใช่เพื่อให้พรรคการเมืองใด พรรคการเมืองหนึ่ง เข้มแข็ง ไม่ว่าจะเป็นพรรคพลังประชาชน หรือพรรคประชาธิปัตย์ หรือพรรคใดๆอย่างแน่นอน

และการที่จะอ้างว่า หากพรรคที่เป็นรัฐบาลต้องถูกยุบพรรคและไม่สามารถเป็นรัฐบาลบริหารชาติบ้านเมืองได้ หากเพราะทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ตามระบบการปกครองแบบประชาธิปไตย แล้วจะทำให้ประเทศชาติขาดเสถียรภาพนั้นคงไม่ถูกต้อง เพราะในทางการเมือง ย่อมต้องมีตัวตายตัวแทน ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนการบริหารชาติ บ้านเมืองแทนกันได้ โดยมีประชาชนเป็นผู้เลือก และเป็นผู้ประเมิน โดยมีรัฐธรรมนูญ เป็นกรอบ กติกา ควบคุม บังคับอยู่

เราคงไม่ต้องการให้เปลี่ยนรัฐธรรมนูญกันบ่อยๆโดย อ้างอย่างเดียวว่า เพื่อให้รัฐบาลมีความมั่นคงแต่ไม่พูดถึงการใช้อำนาจเผด็จการในสภาแทรกแซงสื่อ แทรกแซงองค์กรเอกชนตามรัฐธรรมนูญ ไม่มีเป้าหมายชัดเจน ว่า แก้เพื่ออะไร เพื่อพรรคพลังประชาชนในปัจจุบัน หรือเพื่อชาติ

ดังนั้น ไม่ว่าพรรคไหน พวกไหน ที่ได้เป็นรัฐบาล ขอให้ดู ผลประโยชน์ของชาติ ของประชาชนเป็นที่ตั้งมากกว่าที่จะดู ผลประโยชน์ของพรรคตนหรือพวกพ้องตน การจะขอแก้ไข รัฐธรรมนูญ อย่างไร หากเป็นการทำให้ รัฐบาลมีเสถียรภาพและสามารถทำให้ฝ่ายค้าน มีความเข้มแข็งในการตรวจสอบคัดค้านในสิ่งที่ไม่ชอบมาพากล และ มีองค์กรเอกชนตามรัฐธรรมนูญ ที่สามารถเป็นตัวแทนรักษาผลประโยชน์ให้กับประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพได้ เชื่อได้เลยว่า ชาติบ้านเมืองจะต้องมีเสถียรภาพ ประชาชนจะอยู่เป็นสุข และเราจะได้พรรคการเมืองที่มีคุณภาพอย่างแท้จริง ไม่ใช่เป็นพรรคการเมืองอย่างทุกวันนี้

การที่รัฐธรรมนูญทำให้พรรคที่เข้ามาเป็นรัฐบาลเข้มแข็งเพียงอย่างเดียว แต่แต่ฝ่ายค้านไม่สารถสตรวจสอบรัฐบาลได้ องค์กรเอกชนตามรัฐธรรมถูกเบียดแทรก (หรือที่เรียกว่า เป็นการเผด็จการในสภา)สักวันหนึ่ง คงจะเห็นประชาชนทุกหมู่เหล่า ต้องเดินขบวนขับไล่รัฐบาลอย่างที่ผ่านมาอย่างแน่นอน