วันอาทิตย์, กันยายน 23, 2550

สมัครฯ เป็น "โนมินี" หรือ เป็น........ อะไร?


.....คุณสมัครรู้ตัวไหม ว่า ตัวเองไม่ใช่ "โนมินี"(nominee)ของ คุณทักษิณฯ หรอก ..ถ้าอย่างนั้น..... ถามว่า แล้วคุณทักษิณฯ ชักชวนคุณสมัครฯ เข้ามาอยู่ พรรค พลังประชาชน เพื่อการอันใด คุณทักษิณฯ ต้องการให้คุณสมัครฯมาเป็นอะไร มาทำอะไร ให้แก่ ”พรรคพลังประชาชน “ ฤา ?
....... ขอตอบได้เลย ว่า คุณทักษิณฯต้องการให้ คุณสมัครฯ มาทำหน้าที่เป็นสุนัขเฝ้าฝูงแกะ และทำหน้าที่ เป็นสุนัขล่าเนื้อ คอยกัดกับฝ่ายตรงข้ามกับคุณทักษิณฯ ครับผม ชัดเจนไหม?
.......เพราะ อะไร ที่ กล่าวเช่นนั้น

ประการที่ 1 คุณสมัครฯไม่ได้ มีความรู้ความสามารถและไม่เคยมีผลงาน ในเรื่อง การแก้ไขปัญหา เศรษฐกิจของบ้านเมือง หรือการสมานฉันท์ หรือ ด้านใดเลย ตรงข้ามท่านมีความสามารถที่จะทำอะไรสวนกระแสสังคมได้ตลอดเวลา ยกเว้น ความสามารถเรื่องพูดน้ำไหล ไฟดับ โดยไม่ต้องเว้นวรรคหายใจ ให้คนอื่นได้มีโอกาสพูด เลย หรือความสามารถในการ “ ชิมไป บ่นไป “ แล้วพ่นน้ำลาย ใส่ หนังสือพิมพ์ ใส่นักวิชาการ ใส่คนโน้นคนนี้ แต่ยังไม่เคยมีผลงานเป็นที่ประจักษ์แก่สายตาประชาชนเป็นชิ้นเป็นอัน สักอย่าง มีแต่ผลงานจากลมปากทั้งนั้น อย่างเช่น ตอนที่ คุณสมัครฯ มาเป็นผู้ว่ากรุงเทพมหานคร ก็ได้แต่พูด แล้วก็อ้างว่า เหตุที่ทำอย่างที่พูดไว้ไม่ได้ ก็เพราะ ได้รับการขัดขวาง จาก สภากรุงเทพมหานคร(สก.).เลยทำอะไรไม่ได้ แต่ในทางตรงข้าม ท่านสามารถสวนกระแสการอนุรักษ์สภาพแวดล้อมได้อย่างหน้าตาเฉย ด้วยอาศัยวิวาทะ ที่ไม่มีใครเทียบทานไม่มีใครกล้าต่อปากต่อคำ ด้วยนโยบายสนับสนุนการใช้กระทงโฟมคัดค้านการใช้วัสดุธรรมชาติ ในช่วงที่ใครต่อใครกำลังรณรงค์การเลิกใช้โฟมให้หันมาใช้วัสดุธรรมชาติ นโยบายสนับสนุนให้มีหาบเร่แผงลอย ล้อเลื่อน รถเข็นขายบนทางเท้า ของคุณสมัครฯ ที่มาแปลกกับ ผู้ว่าฯคนอื่นๆอย่างสิ้นเชิง ประเภทสุดขั้ว กับผู้บริหารทุกชุดที่เคยเขามาบริหาร กรุงเทพมหานครฯ ที่พยายามควบคุมจัดระเบียบ หาบเร่ แผงลอย กัน เพราะชาวประชาเขาเดือดร้อน เรื่องหาบเร่แผงลอย เพราะไม่มีทางเท้าจะเดิน และทำให้ถนนหนทางสกปรก ทำให้บ้านเมือง ไม่เป็นระเบียบ คุณสมัครฯประกาศเสียงดังฟังชัดเจนว่า หาบเร่ แผงลอย เป้นเอกลักษณ์อยู่คู่กรุงเทพฯ มานาน ไม่ควรยกเลิก ปล่อยให้ขายทุกวันไม่มีวันหยุด ทำให้ทั้งชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ ด้านความสะอาด เขาบ่นกันขรม วิสัยทัศน์ และความดื้อรั้น ไปแบบข้างๆ คูๆตามสไตล์ ของคุณสมัคร แล้วมาบัดนี้ การจัดระเบียบหาบเร่แผงลอย ล้อเลื่อนรถเข็นเป็นอย่างไรบ้าง ประชาชนก็ยังคงเดือดร้อน ถนนหนทางก็ยังคงสกปรกไร้ระเบียบ ยิ่งกว่าเดิม แม้กระทั่ง เมื่อกรุงเทพ เกิดมีน้ำท่วม หรือไฟไหม้ บ้านเรือนประชาชน ประชาชนเดือดร้อนไปถ้วนหน้า คุณสมัครฯ ก็ไม่เคยเยี่ยมกรายออกไปดู โดยอ้างว่า ไม่ใช่หน้าที่ ของ ผู้ว่าฯ กทม. แต่เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง

ประการที่ 2 คุณสมัครฯ เคยล้มเหลวในการนำพรรคการเมือง ” พรรคประชากรไทย “ ของคุณสมัครฯ ซึ่งขณะนี้ ก็ได้ล้มหายตายจากไปแล้ว

.....ประการสุดท้าย ที่สำคัญ ที่พิสูจน์ ความเห็นดังกล่าวข้างต้น คือ คุณสมัครฯ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่า นโยบายพรรค ที่ตนเองกำลังมาเป็นหัวหน้าพรรค มีนโยบายว่าอะไร เมื่อได้เข้ามาบริหารประเทศชาติ จะบริหารเศรษฐกิจของประเทศได้อย่างไร อย่างดี ก็พูดว่า ต้องทำอย่างนั้น ต้องทำอย่างนี้ หนที่สุดพอทำไม่ได้ ก็ โทษเพราะอ้ายนั่น เพราะอ้ายนี่ ตามลีลาของคุณสมัคร? ขนานแท้และดั้งเดิม ไม่เปลี่ยน รสชาติสักหยดเดียว แม้จะเปลี่ยน ขวดและยี่ห้อใหม่ก็ตาม

......เหล่านี้ เป็นข้อพิสูจน์ ว่า คุณทักษิณฯ ชักชวนให้ คุณสมัครฯเข้ามา อยู่พรรคพลังประชาชน มิใช่เพราะเชื่อว่า คุณสมัครมีความรู้ ความสามมารถ แต่คุณทักษิณฯ มีความเชื่อเรื่องฝีไม้ลายมือในด้าน พูด ด่า ฟัน และชน กับศรัตรูของคุณทักษิณฯ ได้ดีกว่า สมาชิกพรรคไทยรักไทย ที่มีอยู่ทั้งหมดทั้งสิ้น และให้คุณสมัครฯ ทำหน้าที่เฝ้าฝูงแกะดูแลฝูงแกะ ที่อีกหน่อย พอเจ้าของคอก เริ่มโปรยเหยื่อให้ แกะที่แตกฝูงก็ จะเข้ามาอยู่รวมฝูงกันใหม่ และคอยสร้างความสับสน เวียนหัว ให้กับฝ่ายตรงข้ามคุณทักษิณฯ
..... คุณทักษิณฯ เชื่อมั่นว่า คุณสมัคร จะสามารถ ทำหน้าที่ คอยกัด และเห่า ศัตรูคู่แค้นของคุณทักษิณฯ และคอยปกป้องคุณทักษิณฯ ที่ไม่สามารถ ออกนอกหน้าในทางการเมือง ในประเทศได้อย่างชะงัดนัก และ คราวนี้แหละคุณทักษิณฯ ก็สามารถ ควบคุมการบริหารประเทศ โดยอยู่เบื้องหลัง ได้ อย่างแน่นอน สหายเอ๋ย

..... ทุกวันนี้ สิ่งที่น่ากลัวสำหรับความขัดแย้ง ของคนในชาติ เรา ก็คือ การยั่วยุ ปลุกปั่นให้คนมีมิจฉาทิฐิ ก่อความแตกแยก ยั่วยุอารมณ์คน ให้เข้าห้ำหั่นหากัน โดยมิได้มี หิริ โอตตัปปะ ขาดซึ่งความเคารพเกรงใจ ละลาบละล้วงล่วงเกิน จะหา ความเกรงใจและเกรงกลัวเป็นไม่มี ไม่มีใครดี อยู่ในสายตาแล้ว คิดว่า ตัวเอง ฉลาด ตัวเองเก่ง ดื้อด้านสุดขั้ว สวนกระแสสังคมแบบมิจฉาทิฐิ กลับคำได้แม้เพียงชั่วข้ามคืน และกอร์ปด้วย มีโมหะจริต โทสะจริต
....คนแบบนี้ เป็นอันตรายต่อสังคม อย่างยิ่ง เพราะ ไม่ยอมฟังใคร ด้วยเหตุผล ถือเอา ความเชื่อของตนเองแบบสุดขั้วเป็นใหญ่ และเป็นเรื่องที่น่าเศร้าที่คนไทยบางคน นิยมชมชอบลีลาการพูดแบบนี้ โดยถือว่าเป็นคนเก่งเป็นวีระบุรุษ เอาลีลาการกล้าพูดกล้าชน กับใครต่อใคร ว่าเป็นคนเก่ง โดยไม่ได้ดู พฤติกรรม และจุดยืน นี่ซิน่ากลัว
....... ช่วงเหตุการณ์ 14 ตุลา 16 คุณสมัคร สนับสนุนเผด็จการทหาร ต่อต้าน ด่าทอนักศึกษา ประชาชน ที่ ลุกขึ้นมาเรียกร้องประชาธิปไตย เรียกร้องสิทธิเสรีภาพทางการเมืองการปกครอง ขับไล่เผด็จการทหาร อย่างออกนอกหน้า
..... เสร็จแล้ว บ้านเมือง เรา เป็นประชาธิปไตย มีรัฐธรรมนูญ มีการเลือกตั้ง คุณสมัครฯ สามารถกลืนน้ำลาย ก้าวเข้ามานั่งในสภา ตีฝีปากกลางสภา พ่นน้ำลายใส่ฝ่ายตรงข้าม นักการเมืองใครต่อใครได้ อย่างหน้าตาเฉยทั้งๆที่คุณสมัครไม่ได้มีส่วนช่วยหรือสนับสนุนการเรียกร้องรัฐธรรมนูญ แต่ตรงข้ามกลับขัดขวางขบวนการ นิสิต นักศึกษา ประชาชน ทั้งประเทศ ชนิดทำตัวเป็นตัวแทนเผด็จการทหาร ตรงข้ามกลับต่อต้านจนได้รับประกาศนียบัตร ขวาตกขอบเสียด้วยซ้ำไป คงจำกันได้ ปัจจุบันนักศึกษา ประชาชน และนักการเมืองบางคนในนั้นก็ได้เข้ามาเป็น สมาชิกสังกัด"พรรคพลังประชาชน" ณ บัดนี้ หลายคนที่เป็นขั้วตรงข้ามก็ดี คนที่เคยเป็นคู่ต่อสู้ทางการเมืองกับคุณสมัครฯหลายคน ก็ได้มารวมกันอยู่ที่ เวที "พลังประชาชน "ที่มีคุณสมัครฯ ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรค เต็มตัว แล้ว ก็เห็นทุกคน..ดูจะสงบเสงี่ยมเจียมตัวดี นี่คืออะไร...ถามว่า ท่านเหล่านั้น มารวมกันด้วย อุดมการณ์ทางการเมืองตรงกัน หรือ? มารวมตัวกันเพราะเป็นพวกเดียวกันมาก่อนหรือ มารวมตัวกันเพราะเคยต่อสู้ ขับไล่เผด็จการมาด้วยกันหรือ ? หรือเพราะมีความรักชาติ รักแผ่นดิน หรือรักประชาชน รักชาติจนตัวสั่น? หรือมารวมกันด้วยเหตุผล อันใด ณ ขณะนี้ ทุกคนตั้งแต่ หัว ยันหาง ดูเสมือนหนึ่งสงบนิ่งรอฟังอาณัติสัญญาณอะไรบางอย่าง จากนอกโลก
.......ซึ่งนักวิชาการ นักการเมืองและนักข่าวกลัวคุณสมัคร ไม่กล้าโต้คารมด้วยเป็นแถว นับว่าคุณสมัคร มีของดี ที่ใครๆต่างก็กลัวปากคุณสมัคร แม้แต่พิธีกรรายการ ที่เชิญคุณสมัคร มาออกรายการ ยังสู้คุณสมัครไม่ได้ พูดไม่ทันปากคุณสมัคร ปล่อยให้คุณสมัคร พูดเพียงฝ่ายเดียว ด้วยลีลาและคารมตามแบบฉบับได้อย่างหน้าตาเฉย ที่สำคัญ เมื่อต่อมาภายหลังแม้คำพูดที่เคยพูดไว้จะผิด แต่โทษทีคุณสมัคร ไม่เคยยอมรับ ว่า ตนได้พูดอย่างนั้น สามารถ เลี่ยงบาลี แบบ ศรีธนญชัยได้อย่างหน้าตาเฉย ท่าน ก็ว่ากันไปไม่เชื่อ ไปเปิด เทป รายการ” ตัวจริง ชัดเจน “ ของช่อง TITV ซี ว่า คุณสมัคร ได้พูด เกี่ยวกับว่าตนเองเป็น “โนมินี” ตัวจริง ของคุณทักษิณฯ ชัดเจน แต่พอเริ่ม มีการวิพากษ์ ว่า การเป็น “โนมินี” ผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญ คนในพรรคพลังประชาชน หลายคน เริ่ม กระสับกระส่าย คำพูด คุณสมัครฯ ตอนนี้ เริ่มเปลี่ยนว่า เจตนาไม่ได้หมายถึงอย่างนั้น ..ส่วน ปี่ ขลุ่ย ฆ้อง กลอง ข้างคุณทักษิณฯ ต่างก็ ลุกขึ้นมา สนับสนุน กันเป็นพรวน ดูเอาเองซิครับท่าน” เรียกว่า ยิ่งกว่า ปลาไหลใส่สเก๊ตเสียอีก "คนโกหกไม่ประพฤติชั่ว เป็นไม่มี" ท่านที่รัก.
......กิระดังที่ได้ยินมา ว่าคุณสมัครฯ กำลัง สิ้นลมปราณทางการเมืองรอมร่ออยู่แล้ว ด้วย ก่อนหน้านั้น พรรคของตนเองก็ล่มสลาย สมาชิกพรรดประชากรไทย ที่สมาชิกล้มหายตายจากไปเกือบหมด ส่วนสมาชิกพรรคคนสุดท้ายที่เคยจงรักภักดีก็ตีจากไปอยู่ในอ้อมอก รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ กทม.เรียบร้อยแล้ว คุณสมัครฯ เอง ก็เคยประกาศตัวว่าจะวางมือจากการเมืองเนื่องจากหมดน้ำยา และน้ำเลี้ยงทางการเมือง จึงไปเอาดีทาง ชิมไปบ่นไป แต่ คราวมีการเลือกตั้ง ตามรัฐธรรมนูญ ปี 2540 คุณสมัครฯ ก็ลองสมัคร สว.ด้วยลมหายใจเฮือกสุดท้าย บังเอิญสอบได้เนื่องจากยังมี แฟนคลับที่ชื่นชอบลีลาของคุณสมัครฯ ยังให้การสนับสนุนคุณสมัครฯอยู่ คุณสมัครฯ จึงเกิดแรงฮึด ลุกขึ้นมาสำแดงอิทธิฤทธิ์ได้อีกรอบหนึ่ง เหมือนคุณทักษิณฯ สมัยเป็นนายกฯ พอมีกระแสต่อต้าน วิพากษ์วิจารณ์หนักขึ้น คุณทักษิณฯ ก็ประกาศจะวางมือทางการเมืองแน่นอน พอถูกกระแสเชียร์ จากบริวารที่เกาะท้องเสือทางการเมืองและกลุ่มรักทักษิณฯส่งเสียงสนับสนุน ก็เกิดแรงฮึดชูกำปั้นสำแดงเดชใหม่อีก
.....ดังนั้นจึงไม่สงสัย ว่า นายสมัครฯที่เคยเงียบมานาน หลังจาก ได้รับอาณัติจาก คุณทักษิณฯ ให้เข้ามาทำหน้าที่ สุนัข เฝ้าฝูงเกาะ และ ทำหน้าที่สุนัข ล่าเนื้อ คุณสมัครฯ จึงฟาดหัวฟาดหาง อย่างลิงโลด ที่จะสวมบท ทั้งเห่า ทั้งกัด สุดแรงเฮือกสุดท้ายของชีวิตด้วยความเต็มใจ ทันที อย่างไม่รีรอ

......และเชื่อไหมว่า ..ถ้า...พรรคพลังประชาชน ไม่ได้เป็น รัฐบาล คอยดู คำพูดและลีลาคุณสมัครฯ ต่อไป ซิ ว่า จะยังคง อ้างตัวเอง เป็น "โนมินี" ของคุณทักษินฯ อีกหรือไม่แล้วดูซิว่า พรรคนี้จะเหลือสมาชิก ที่เคียงข้างคุณทักษิณฯ สักกี่คน คุณสมัครฯ คุณ"วีระฯ" แม้กระทั่ง "คุณเฉลิม" เองมาเกิดทางการเมือง ใต้ร่มธง "ประชาธิปปัตย์" ในยุคที่พรรค "ประชาธิปัตย์"รุ่งเรือง แต่ในที่สุด ก็ออกจากพรรคประชาธิปปัตย์ กลายเป็นศัตรูคู่อาฆาตทางการเมืองกับ "พรรคประชาธิปปัตย์" เพราะอะไร ลองย้อนกลับไปดูไม่ใช่ขัดแย้ง เรื่องนโยบาย หรือขัดแย้งเรื่อง อุดมการณ์เลย ล้วนเป็นเพราะเรื่องของตำแหน่งทางการเมืองทั้งสิ้น
....ฝูงแกะ และสุนัขเฝ้าฝูง ตอนนี้ ยังเชื่อว่า คุณทักษิณฯ ต้องกล้บมามีอำนาจทางการเมือง จะต้องได้กลับมามีอำนาจอีกครั้งหนึ่ง ล้านเปอร์เซ็นต์ ละครเรื่องนี้สนุกแน่ หากใครไม่เชื่อ คอยติดตามดู ตอนต่อไป.


อย่าตกใจปู่ฯที่ลูกแกะไม่กลับเข้าคอกของปู่ฯ

.......ปูสมัครฯ หะแรก ลิงโลด ว่าได้ฟื้นคืนชีพทางการเมือง อีกครั้ง หลังจาก เกือบ หมดลมหายใจเฮือกสุดท้าย ที่ ลูกพรรค หนีออก คอกประชากรไทยให้ร้างโรยรา ล่มสลายทางการเมือง แต่พอ ปู่สมัครฯ ถูกดึงให้เข้ามาคุม คอกใหม่ ทุนหนา ไม่อั้นเรื่องน้ำหล่อเลี้ยง ปู่ แก ก็ประกาศ เสียงกร้าว ว่า ผมเองนั่นแหละ เป็น “โนมินี” ตัวจริงของคุณทักษิณฯ อย่างออกหน้าออกตา เสียงดังฟังชัด ใครจะทำไม ใครจะว่า งัย มันจะผิดตรงไหน แต่พอ ลูกแกะแตกฝูงที่คิดวาส คงต้องเข้าฝูงเข้าคอกใหม่ แน่นอน แต่กลับไปรวมตัวกันตั้งพรรคใหม่ ที่ประกาศตัวว่า ชาตินี้ ขอ พลีเพื่อ แผ่นดิน เพื่อชาติ เพื่อศาสนา เพื่อพระมหากษัตริย์ เพื่อประชาชนตาดำๆ จะสร้างพรรคใหม่นี้ด้วยอุดมการณ์อันสูงส่ง จนหมดลมหายใจเฮือกสุดท้าย เท่านั้นแหละ ปู่สมัครฯ ถึงกับหน้าจ๋อย เสียงอ่อย บ่นพึมพำๆ ในลำคอ ลงทันที

..... ไม่ต้องตกใจหรอก ปู่ฯ มันก็อย่างงี้ แหละ นักการเมืองไทย ปู่เองก็เจอมาเยอะแล้วมิใช่หรือ เหมือนคลื่น เหมือนลม ลมเพ ลมพัด นั่นแหละ แต่ที่แน่ๆ หากพรรคไหน มีแนวโน้มว่าจะได้เป็นรัฐบาล เขาก็ กลืนน้ำลายที่เคยถ่มรดหน้าใครต่อใคร แล้วก็จะไปอยู่ซีกนั้น แต่ถ้าซีกไหน มีแนวโน้มว่าจะไม่ได้เป็นรัฐบาลแน่ ลูกพรรคเขาก็จะหนี ออกจากอ้อมอกไป หรือ ถ้าอยู่พรรคซีกรัฐบาล หากไม่ได้ตำโหน่งตำแหน่ง ไม่ได้เป็นใหญ่เป็นโต สักพักเขา ก็จะ ออกไปอยู่พรรคอื่น หรือ ไม่ก็ตั้งพรรคใหม่ เหมือนอย่าง ปู่ฯเอง เหมือนอย่าง คุณวีระฯ และ เหมือนอย่างน้องเฉลิม และใครต่อใคร นั่นแหละ

...... ตอนนี้ ใครเขาจะตั้งพรรคตั้งกลุ่มอะไร ประกาศจุดยืนทางการเมือง เป็นทางเลือกที่สาม ที่สี่ ที่ห้า ที่หก อย่างงัย จะไปจับขั้วอะไรกับใครก็แล้ว แต่ ที่สุดแล้ว พออัดเงินเข้าไป พอเสนอตำแหน่งทางการเมืองให้ และหากได้เป็นฝ่ายรัฐบาล เดี๋ยวพวกนี้ ก็กลับมาเอง มันเป็นสัจธรรมทางการเมืองของเมืองไทย นั่นแหละ ปู่ฯ.



kunkorn@msn.com

ไม่มีความคิดเห็น: