วันอาทิตย์, กันยายน 16, 2550

การเมืองเป็นเรื่อง ละครหลังข่าว(น้ำเน่า ..ตามเคย)


......ระยะนี้ กะพ๊ม เริ่มจะได้เห็น นักการเมืองที่รักของกะพ๊ม ได้มีโอกาส ออกแถลงข่าว วี๊ดว้ายกระตู้ฮู้ ยืดเส้น ยืดสายได้สำแดง น้ำจิตน้ำใจ สำแดง เลือดแห่งความรักชาติ รักแผ่นดิน รักประชาชน ตาแดงๆ อย่าง กะพ๊ม กัน ที่ละคนสองคน ผมหละ ดี จ๊ายดี จาย จนน้ำหู น้ำตาไหล พรากๆ ออกมาเป็นสายเลือดไห้ได้ นักการเมืองของเรา นี่แหละ สู้อุตส่าห์ เสียสละความสุขความสบายส่วนตัว ออกมารับใช้ชาติ รับใช้ ประชาชน เพื่อทดแทนบุญคุณของแผ่นดิน อันเป็นที่รักยิ่งของกะพ๊ม บรรดาท่านๆเหล่านั้นสู้อุตส่าห์ ลืมความหลังความทรงจำความขมขื่นลืมที่เคยกัด.. เอ๊ยขัดกัน ทั่นสู้อุตส่าห์ หันหน้าเข้าหากัน มา สามัคคี จูบปาก เลียน้ำลายที่เคยถ่มรดกัน เห็นไหม ว่า ทั่นเหล่า นั้น มีความเสียสละ มี สปิริตและ มีอุดมการณ์ทางการเมืองอย่างเลอเลิศประเสริฐศรี ขนาดไหน? (เสียง..ปรบมือ กราวววว.....มีผิวปาก ด้วย)


......นักการเมือง เมืองไทย ตั้งแต่กะพ๊ม เกิดมาเป็นตัวเป็นคน กะพ๊มเอง สาบานแทนให้ก็ได้ว่า ไม่เห็นมีนักการเมืองคนไหน ไม่รักชาติ ไม่รักประชาชน ไม่ยินยอมเสียสละความสุขส่วนตัว รับตำแหน่งทางการเมือง สักกะคน แต่กะผ้มก็ยัง มึนๆ งงๆ ว่าทำมัย พอทั่นเหล่านั้น ไม่ได้รับตำแหน่ง ในพรรคก๋ดี ไม่ได้ตำแหน่งทางการเมือง ก็ดี ทำไม ทั่น จึงต้องลาออกมาตั้ง พรรคใหม่ แล้วก็ประกาศเป็นพรรคทางเลือกใหม่ทุกทีเลย แต่ที่แน่ๆ ประชาชนอย่างกะพ๊ม ก็ ยังคงยากจนค่นแค้น ปากกัด ตีนยัน อยู่วันยังค่ำ รับราชการถ้าไม่มี เส้นไม่มีสาย ทำงานให้ตาย โหงตายห่า ก็คงไม่ได้ดิบได้ดี แต่ที่รู้ๆ เห็นๆ นักการเมือง ร่ำรวยกันทุกคน ญาติ พี่น้อง คนใกล้ชิด เห็นได้เป็นใหญ่เป็นโต กันเป็นทิวแถว ดูนามสกุลก็รู้ๆกันอยู่


..... นายกรัฐมนตรี ของ ญี่ปุ่น เฮียแก ชื่ออะไร เนี๊ยะ ผมจำไม่ค่อยด้าย ซือเบ๊ยๆ อะรัยเนี๊ยะ พอรัฐมนตรี ร่วมรัฐบาล มีข่าวว่า คอรัปชั่น เท่านั้น เฮีย ดัน เสือกลาออก ซะ หนิ ใจเสาะ เป็นบ้า เป็นหลัง e-ธ่อ ผมบอกแล้วว่า สู้นักการเมืองเมืองไทย ไม่ได้ สักกะผีก ขนาด แดก เอ้ย กิน เอ๊ย รวยล้นฟ้า ไม่รู้กี่ คดี ก็ยังเห็น หน้าด้าน เอ้ย โผล่หน้า ตะโกนปาวๆ อย่างไม่สะทกสะท้านผิวหน้า เรียกว่ายิ่งรักชาติ ยิ่งรักประชาชน ตาแดงๆ อย่างคนอีสาน คนเหนือ ยิ่งจนลงๆ เลย จริงๆ แบบนี้ จะไม่ให้กะผ๊ม ดีจ๊ายๆ ดีจาย ที่เห็นบรรดา ท่านเหล่านั้น สู้อุตส่าห์แย่งกันออกมาสำแดงความรักชาติ รักประชาชน รักแผ่นดิน ยอมเสียสละชีพเพื่อชาติ ทนความลำบากลำบนยื่นหน้ามาออกไมค์ ออกกล้อง เพื่อเห็นแก่ชาติ แก่บ้าน แก่เมืองจนตัวสั่น น้ำลายฟูมปาก กันเป็นทิวแถว กะพ๊มหละ ซาบซึ้งในน้ำใสจายจิงของท่านเหล่านั้น กะพ๊มหละ น้ำตาไหลพราก ๆ สงสาร การเมืองเมืองไทยจริงๆ ว่า เป็นเวรกรรมอะไรของบ้านเมืองเรา ทำไม การเมืองไทยถึง น้ำเน่าอย่างนี้ นักการเมืองของเรา แต่ละคนก็ออกจะ ดีดี มีคุณภาพ มีอุดมการณ์ เสียสละ กันทางน๊านนนนนนน


....ท้ายที่ สุดที่กะพ๊ม ต้องอดหลั่งน้ำลาย เอ๊ย น้ำตาแห่งความปลื้ม แบบสุดๆ ไม่ได้ (โทษที กะพ๊ม หละ ชอบเพิดผิด อยู่เรื่อยๆ ขออภัยมณี ผมเมา อุดมการณ์ ของนักการเมือง ยุค ใหม่ ขออย่าถือสากกะเบือผม เลย )ใน ความเสียสละ อัน ยอดเยี่ยม แห่งศตวรรษ คือ การ ยินยอม บริจาค ชื่อพรรค อันเป็นที่รักยิ่ง ของท่าน ที่ทั่นนั้นรักยิ่งกว่าลูกบุญธรรม รักยิ่งกว่ากว่าเมียน้อย อีก น๊ะ จาบอกให้ ท่านสู้ยินยอม กัดลิ้นเสี่ยเติ๊ง จนเกือบขาด มาบริจาคพรรคของทั่น ให้ บรรดา สหายร่วมอุดมการณ์ ที่ จะต้องมาร่วมกัน กู้ ชาติ กู้แผ่นดิน คราวนี้ ( เสียง ปรบมือ เกรียววววววววววววว )..เพื่อให้ "ท้องฟ้าสีทอง ผ่องอำไพ กูจะเป็นใหญ่ในแผ่นดิน" (ละหวา ครานี้)(เสียง ปรบมือ กระทืบเท้า พร้อมกับเสียง ใครก็ ไม่รู้เสือก อ๊วกออกมา)

ไม่มีความคิดเห็น: